ปรับขนาดตัวอักษร
ปรับสี
แสดงแบบตาราง
ปรับขนาดตัวอักษร
ปรับสี
แสดงแบบตาราง
วัตถุประสงค์การก่อตั้ง
มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามประกาศกระทรวงการคลังลำดับที่ 75 เป็นมูลนิธิฯ ที่ให้ความช่วยเหลือคนพิการแห่งแรกในประเทศไทย โดยมุ่งช่วยเหลือผู้พิการทางการเห็นด้วยการพัฒนาความรู้ความสามารถและประสบการณ์ ที่จำเป็นในการดำเนินชีวิตประจำวันโดยมิได้หวังผลตอบแทน จัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2482 มีวัตถุประสงค์สำคัญ 3 ประการ ดังนี้
เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามวัตถุประสงค์ มูลนิธิฯ จึงมีการบริหารและขยายการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ออกเป็น 5 ส่วน คือโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ ศูนย์พัฒนาสมรรถภาพคนตาบอด ศูนย์เทคโนโลยีการศึกษาเพื่อคนตาบอด ศูนย์พัฒนาอาชีพคนตาบอดและศูนย์ฝึกอาชีพหญิงตาบอดสามพราน โดยมีสำนักบริหารมูลนิธิฯ เป็นศูนย์กลางประสานงาน มูลนิธิฯ ได้รับความร่วมมือและช่วยเหลืออย่างดีจากผู้ที่เล็งเห็นคุณค่าความสำคัญในการหยิบยื่นโอกาสให้กับผู้พิการทางการเห็น ทั้งในรูปแบบการบริจาคเงิน สิ่งของ และการให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ นำมาซึ่งความหวังและโอกาสที่ดีแก่ผู้พิการทางการเห็น เพื่อช่วยให้เกิดแสงสว่างในชีวิต
ประวัติและความเป็นมา
การก่อตั้งมูลนิธิฯ เกิดขึ้นจากแนวความคิดของ มิสเจนีวีฟ คอลฟิลด์ สตรีตาบอดชาวอเมริกัน ที่มีความมุ่งมั่นและต้องการช่วยเหลือผู้พิการทางการเห็น และเห็นว่าประเทศไทยในขณะนั้นยังไม่มีองค์กรใดให้ความสนใจช่วยเหลือผู้พิการทางการเห็น จึงเดินทางเข้ามาในประเทศไทยและเริ่มก่อตั้งโรงเรียนสอนคนตาบอดขึ้นเป็นแห่งแรก ในประเทศไทย ณ บ้านเช่าหลังเล็ก ถนนคอชเช่ ศาลาแดง
โดยได้ร่วมกับนักศึกษาไทยประดิษฐ์อักษรเบรลล์ภาษาไทยขึ้น ต่อมามีผู้มีจิตกุศลช่วยเหลือและสนับสนุนร่วมกันจัดตั้งมูลนิธิชื่อว่า “มูลนิธิช่วยให้การศึกษาแก่คนตาบอดในประเทศไทย” เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2482 โดยมีวัตถุประสงค์ในการให้การศึกษาแก่ผู้พิการทางการเห็นตามสมควรแก่อัตภาพ เพื่อให้สามารถช่วยเหลือตัวเองและอยู่ในสังคมได้อย่าง คนปกติทั่วไปโดยมิต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มิสเจนีวีฟ คอลฟิลด์ จำต้องวางมือจากงานเพื่อเดินทางไปญี่ปุ่น จึงได้ติดต่อขอนักบวชคณะซาเลเซียนมาช่วยบริหารงานแทน คณะซิสเตอร์ได้เข้ามาดูแลนักเรียนด้วยความเอาใจใส่ให้กำลังใจ ทำให้เด็ก ๆ มีกำลังใจต่อสู้อุปสรรคต่าง ๆ พิสูจน์ให้สังคมทั่วไปเห็นว่าพวกเขามีความสามารถในการเรียนรู้ และทำสิ่งต่าง ๆ ได้ เป็นเด็กมีระเบียบวินัย ซื่อสัตย์ และมีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ มีผู้ศรัทธาบริจาคเงินให้การสนับสนุนมากขึ้น ทำให้การศึกษาของเด็กนักเรียนผู้พิการทางการเห็นเจริญก้าวหน้าและมั่นคงยิ่งขึ้น คณะซิสเตอร์ได้มอบงานคืนให้มูลนิธิฯ ในปี พ.ศ. 2535
ในปี พ.ศ. 2502 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ต่อมาจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น “มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์” โดยมีคณะกรรมการมูลนิธิฯ เป็นผู้บริหารงาน
ตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา มูลนิธิฯ ได้ให้การสงเคราะห์ผู้พิการทางการเห็น โดยตั้งอยู่ในหลักการที่ว่า การช่วยเหลือผู้พิการทางการเห็นนั้น มิใช่ช่วยเพียงการเริ่มต้นที่โรงเรียนเพื่อให้ได้รับการศึกษาเท่านั้น หากแต่ต้องช่วยพัฒนาศักยภาพและสร้างโอกาสทางวิชาชีพเพื่อหารายได้เลี้ยงตนเอง โดยไม่เป็นภาระแก่ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ จึงจะถือได้ว่าการดำเนินงานของมูลนิธิฯ นั้น สัมฤทธิ์ผลโดยสมบูรณ์
มูลนิธิฯ ได้ดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ข้างต้นอย่างเคร่งครัดและโปร่งใสมาโดยตลอด จนได้รับคัดเลือกเป็นหน่วยงานดีเด่นของชาติประจำปี พ.ศ. 2542 จากคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
"เป็นผู้นำในการส่งเสริมทักษะ พัฒนาศักยภาพ และสมรรถนะของคนตาบอดในประเทศไทย ให้มีอาชีพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ให้สามารถอยู่ได้อย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี อย่างยั่งยืน"
มุ่งส่งเสริมการเรียนการสอนด้านเทคโนโลยี ดนตรี ภาษา และกีฬา สู่ความเป็นเลิศ
มุ่งส่งเสริมการสอนและฝึกอบรมด้านอาชีพเพื่อให้เลี้ยงตนเองได้
มุ่งส่งเสริม และประสานงานเพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ